What is 18 Karat Gold?

เป็นคำถามที่ลูกค้าหลายๆท่านสงสัยนะคะว่าทอง 18 k คืออะไร และแตกต่างจากทองบ้านเราอย่างไร ขออนุญาตอธิบายคร่าวๆเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจนะคะ การแบ่งทองเป็น k (karat) นั้นคือการที่จะบ่งบอกว่าจิวเวลรี่ชิ้นนั้นๆ ผลิตด้วยทองคำ กี่เปอร์เซ็นต์


ทองบ้านเราที่ซื้อกันที่ร้านทองหรือเรียกอีกชื่อว่า ทอง 24 k นั้นมีเนื้อทอง 99.9% คือทองบริสุทธิ์นั่นเอง จะมีมูลค่าสูง สีจะเหลืองสดลักษณะค่อนข้างอ่อนนุ่ม การขึ้นเนื้องานแข็งๆอาจจะทำได้ยาก เวลากระชากแรงๆอาจขาดได้ง่าย


และสเต็ปต่อมาในการทำจิวเวลรีคือ ทอง 18 k หรือที่เรียกกันว่าทองอิตาลีนั่นเองค่ะ ซึ่งทอง 18 เคนั้นจะมีเนื้อทองอยู่ 75% อีก 25% เป็นโลหะเนื้อแข็ง ทำให้การขึ้นรูปหรือฝังเพชรนั้นมั่นคงแข็งแรง ไม่ขาดไม่หลุดง่าย ทางยุโรปและแบรนด์ใหญ่ๆจึงเน้นการใช้ทอง 18 k ในการทำจิวเวลรีมาตลอด


นอกเหนือจากนั้นมีจิวเวลรีทอง 14 k , 12 k, และ 9 k เปอร์เซ็นต์ของทองลดหลั่นกันไปค่ะ 💫 จิวเวลรีของ @braccialett.t เป็น 18k จากอิตาลี ทุกชิ้น (นอกจากมีชิ้นพิเศษที่จะแจ้งหลังไมค์) ลูกค้าสบายใจได้นะคะ ❤

ทั้งนี้ เรามาดูกันนะคะว่าทองคำแต่ละสี แตกต่างกันอย่างไร มูลค่าต่างกันหรือไม่? สำรับทองคำแต่ละสีนั้นราคาจะไม่ต่างกันนะคะ เพราะเบสยืนพื้นของเนื้อทองถ้าระบุว่าเป็น 18 k แล้วล่ะก็ สิ่งที่ทำให้สีเปลี่ยน คือตัวโลหะที่เหลืออีก 25% นั่นเอง เช่น


yellow gold = Gold75%, silver10-20%, copper 5-15%
white gold = Gold75%, silver 18.5%, copper 1%, zinc, 5.50%
Pink gold = Gold 75%, silver 2.75%, copper 25.25%

จะเห็นได้ว่าแต่ละสีนั้น ทองยืนพื้นคือ 75% ที่เปลี่ยนคือโลหะที่จะมาเป็นตัวแปรของสีของจิวเวลรี่ชิ้นนั่นๆนะคะ



ส่วนการเลือกสีในการสวมใส่ จะขึ้นอยู่กับความชอบล้วนๆ บางชิ้นงานใช้เป็น white gold ก็จะสวยเรียบมีสเน่ห์ บางชิ้นเป็น pink gold ก็จะเพิ่มความอ่อนโยน กลืนกับสีผิว หรือเป็น yellow gold มีความวินเทจ ลุคเท่ห์ๆ แล้วแต่วันแล้วแต่สไตล์ค่ะ


ปล. ทองไทยแท้จะ 24k เนื้อทอง 99.99% จึงไม่มีเป็นสีขาวหรือชมพูนะคะ :))) ใครงงยกมือ 🙋🏻‍♀️
Line:@braccialetti

เขียนโดย วีด้าเองค่ะ :)